#การฉีดวัคซีน_สิทธิส่วนบุคคลหรือเรื่องสาธารณะ?

156 จำนวนผู้เข้าชม  | 

#การฉีดวัคซีน_สิทธิส่วนบุคคลหรือเรื่องสาธารณะ?

เมื่อมีการพยายามแก้ไขความเข้าใจผิด/ชี้แจงข่าวลือต่างๆ หรือพูดถึงการรณรงค์การรับวัคซีนกันมากขึ้น ก็เริ่มมีบางคนออกมาแย้งว่า... “ใครอยากฉีดก็ฉีดไป แต่ใครไม่อยากฉีดก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขาไม่ใช่หรือ?"

...ประโยคข้างต้นก็คงเป็นความจริงเช่นนั้น (หากมองในแง่สิทธิส่วนบุคคล), แต่ก่อนที่เราจะไปให้คำตอบต่อคำถามดังกล่าวข้างต้นกัน ผมอยากขอเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้ให้ฟังเป็นกรณีศึกษาก่อน...

...ในปี ค.ศ.2000, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ (CDC) ได้ประกาศว่า "ภายหลังประเทศสหรัฐอเมริกาพยายามรณรงค์ให้มีการรับวัคซีนอย่างครอบคลุม สุดท้ายก็สามารถกำจัดโรคหัด (measles) ได้สำเร็จแล้ว" (หมายความว่า ไม่พบเคสผู้ติดเชื้อโรคหัดในประเทศอีกเลยในขณะนั้น)

แต่ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่ง กระแสการต่อต้านวัคซีน ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อปี 1998 (และยังคงดำเนินเรื่อยมา) ก็เริ่มได้รับความสนใจและเข้าร่วมจากประชาชนมากขึ้น
จนมีประชาชนมากมายเริ่มหลงเชื่อและไม่ยอมนำลูกหลานของตนไปรับวัคซีนกันมากมาย
จนสุดท้าย โรคหัดก็กลับมาระบาดในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง (โดยในปี 2014 พบมีผู้เป็นโรคหัด 644 ราย ใน 27 รัฐ, และช่วงต้นปี 2015 เพียงผ่านไปภายในเวลาแค่เดือนเศษ ก็พบมีผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 121 ราย ในทั้งหมด 17 รัฐ)

แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะน้อยมาก ถ้าเทียบกับประชากรทั้งหมดของประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนมากกว่า 300 ล้านคน แต่ที่น่ากลัวก็เพราะการแพร่กระจายของโรคหัดนั้นง่ายมากเมื่อเทียบกับโรคอื่นๆ เช่น ถ้ามีผู้ป่วยโรคหัด 1 คน จะมีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นถึง 18 คน (เมื่อเทียบกับโรคอีโบลาที่มีอัตรา 1 ต่อ 2 คน หรือโรคซาร์ 1 ต่อ 4 คน)

แต่หลังจากนั้น การติดเชื้อของโรคหัดเริ่มพบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังพบการติดเชื้อของโรคคอตีบไอกรน (Whooping cough / Pertussis) มากขึ้นด้วย
และที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้าคนเริ่มฉีดวัคซีนกันน้อยลงไปเรื่อยๆ การระบาดของโรคอื่นๆอีกมากมายก็จะกลับมาได้ง่ายเช่นกัน (เช่น โรคคางทูม และหัดเยอรมัน เป็นต้น)

จากการที่พบว่าคนอเมริกันเริ่มพาลูกไปฉีดวัคซีนกันน้อยลงนี้ ศูนย์โรคระบาดฯ คำนวนไว้ว่า "อย่างน้อย 95% ของจำนวนประชากรทั้งหมดต้องฉีดวัคซีน ถึงจะสามารถควบคุมโรคได้" และสามารถที่จะรักษาสภาวะที่เรียกว่า "ภูมิคุ้มกันหมู่" เอาไว้ได้ (ดูจากภาพประกอบร่วม)

#ภูมิคุ้มกันหมู่ - Herd immunity (หรือบางคนอาจเรียกว่า ภูมิคุ้มกันชุมชน - Community immunity) หมายถึง การที่คนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีน (ในที่นี้ประมาณ 95%) ซึ่งเสมือนเป็นการ #สร้างเกราะภูมิคุ้มกันให้กับชุมชน โดยผลดีของ ภูมิคุ้มกันหมู่ คือ มันจะมีประโยชน์ในการปกป้องคนหมู่น้อยให้ปลอดภัยไปด้วย โดยเป็นเกราะกำบัง ไม่ให้โรคติดเชื้อ เข้าถึงคนที่ไม่มีภูมิต้านต่อโรคหรือเป็นผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เช่น;
- เด็กและคนชราที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้หรือที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันต่ำ,
- กลุ่มผู้ป่วยที่กำลังมีภูมิต้านทานไม่ดีพอ (immunodeficiency) จากโรคหรือภาวะต่างๆ เช่น HIV/AIDS, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma), มะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia), มะเร็งไขกระดูก (a bone marrow cancer)
- ผู้ป่วยคนที่กำลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมี (chemotherapy)
เป็นต้น

สุดท้ายแลัว กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้ก็จะปลอดภัยไปด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไว้แล้ว ฉะนั้น ก็จะไม่มีใครเป็นโรคและแพร่เชื้อไปให้ผู้ที่อ่อนแอ่กว่านั่นเอง

...โดยทั้งนี้ แต่ละโรคจะมีอัตราการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ไม่เท่ากัน บางโรคติดต่อง่าย เช่นโรคหัด ก็จำเป็นต้องให้ประชากรมีภูมิ (ได้รับวัคซีน) ในอัตราที่สูงมาก จึงจะไม่ทำให้มีการระบาดของโรคเกิดขึ้น, และบางโรคก็มีการติดต่อกันยากกว่า แม้อัตราการได้รับวัคซีนของประชากรมีปริมาณลดลงมาหน่อย แต่ก็ยังคงสามารถเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้เช่นกัน

ซึ่งการหา Herd immunity เราสามารถหาได้จาก "เอา 1 ลบด้วย 1 ส่วนอำนาจการกระจายโรค", แต่ อำนาจการกระจายโรค จากคนป่วย 1 คนสามารถกระจายไปให้แก่คนสุขภาพดีได้กี่คนนั้นก็แตกต่างกันไปในแต่ละโรค เช่น;
- โรคหัด อำนาจการกระจายโรคจะเท่ากับ 14-18 คน, ดังนั้นเราต้องให้วัคซีนโรคหัดให้ครอบคลุมถึง 1-(1/18) x 100 = 94.4% จึงจะป้องกันการระบาดได้
- โรคคอตีบ มีอำนาจการกระจายโรคเท่ากับ 7 คน, ดังนั้น Herd immunity เพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาดของคอตีบ จึงอยู่ที่ 1-(1/7) x 100 = 85.71%
เป็นต้น

...หากคุณได้อ่านจนมาถึงตอนท้ายนี้ คุณพอจะสามารถให้คำตอบกับตัวเองได้หรือยังครับว่า การฉีดวัคซีนนั้น "เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลหรือเรื่องสาธารณะ?"

ด้วยความเคารพและความปรารถนาดี
นพ.สุกรี เส็มหมาด
...........................................
Ref.;
http://www.cdc.gov/measles/cases-outbreaks.html 
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11078115 
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Herd_immunity 
https://th.m.wikipedia.org/wiki/ภูมิคุ้มกันหมู่ 
http://www.siamintelligence.com/vaccines-war-in-america/ 
https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/890645304311421 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้